หลักสูตรเทียบโอนประสบการณ์

หลักสูตรการจัดการ การเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ หมายถึง การนำความรู้ความสามารถ  ทักษะความชำนาญรวมทั้งกิจนิสัยที่เกิดจากการประกอบอาชีพหรือประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา  ซึ่งตรงกับรายวิชาตามหลักสูตรการอาชีวศึกษามาขอเทียบหน่วยกิตเพื่อ ให้ได้วุฒิการศึกษาสายอาชีพ  ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)  หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง  (ปวส.)

 1.  หลักการและเหตุ 
 สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.  2542  และที่แก้ไขเพิ่มเติม  (ฉบับที่ 2)   พ.ศ. 2545
มาตรา 15 กำหนดให้การจัดการศึกษามีสามรูปแบบ คือการศึกษาในระบบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัย  ไม่ว่าจะเป็นผลการเรียนจากสถานศึกษาเดียวกันหรือไม่ก็ตาม  รวมทั้งจากการเรียนรู้นอกระบบและอัธ
ยาศัยจากการฝึกอาชีพ  ประสบการณ์ชีวิตหรือจากประสบการณ์ทำงานประกอบกับปัจจุบันโลกไร้พรมแดนเป็นยุค
ข้อมูลข่าวสาร  เทคโนโลยี  สภาพของสังคมและเศรษฐกิจที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วทำให้ประชาชนนักศึกษาม
ีโอกาสหาความรู้ได้หลากหลายวิธี  มีแห่งให้ศึกษาหาความรู้  มีอุปกรณ์ช่วยในการศึกษาหลากหลาย   การเรียน
รู้เกิดได้ทุกสถานการณ์  เช่น  การทำงาน  การพบปะสังสรรค์  การเข้าร่วมกิจกรรม  ชมรม   กีฬา  อาสาสมัคร  กิจ
กรรมทางศาสนาและสังคม  ซึ่งการเรียนรู้ที่เกิดนอกชั้นเรียนดังกล่าวไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน การเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เข้าสู่หน่วยกิตจะช่วยให้ผู้ประกอบอาชีพสามารถพัฒนาสมรรถนะตนจน
ได้วุฒิ  ปวช. หรือ ปวส.  ที่มีมาตรฐานแต่ละวิชาอย่างชัดเจนในระยะเวลาที่น้อยกว่านักศึกษาที่ศึกษาในระบบเพียง
อย่างเดียว 
                การเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เป็นการยอมรับผลการเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ ดังนั้นการจัดการ
ศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง  (ปวส.)ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาประชาชนสามารถ
นำความรู้และประสบการณ์มาขอรับการประเมินเทียบโอน เพื่อยกเว้นการเรียนรายวิชาในสถานศึกษาที่เข้าเรียน
และนับเป็นส่วนหนึ่งของผลการเรียนตามหลักสูตร ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติดังกล่าว 
                สำหรับการเทียบโอนผลการเรียนรายวิชา / กลุ่มวิชาในหลักสูตรเดียวกันหรือต่างหลักสูตรซึ่งเป็นการ
จัดการศึกษาในระบบและนอกระบบ  สถานศึกษาสามารถดำเนินการได้ตามปกติ

2.  วัตถุประสงค์ 
                เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษานำความรู้และประสบการณ์มาทำการประเมินเทียบโอนเข้าสู่หน่วยกิต  เป็นการยอมรับความรู้และประสบการณ์ให้เป็นส่วนหนึ่งของผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ  (ปวช.)  และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง  (ปวส.)

3.  ด้านอื่น ๆ  
1)  บุคลากรของสถานประกอบการหรือหน่วยงานของทางราชการหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ตระหนักในการพัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะตนตลอดเวลา 
2)  การเรียนรู้  การฝึกเฉพาะด้านที่จำเป็นต่องานในหน้าที่  ช่วยประหยัดเวลาได้มาก  เพื่อไม่ให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายทั้งผู้ขอเทียบโอนและสถานศึกษา 
กลุ่มวิชา  หมายถึง  รายวิชาในกลุ่มวิชาต่าง ๆ  ในหมวดวิชาสามัญหรือรายวิชาในกลุ่มวิชาแต่ละสาขาวิชาชีพตามโครงสร้างของหลักสูตร

4.  หลักเกณฑ์การขอประเมินเทียบโอนความรู้ประสบการณ์ 
                4.1  คุณสมบัติของผู้ขอรับการประเมิน
                                4.1.1  เป็นนักเรียน นักศึกษาในสถานศึกษาที่เปิดสอนตามหลักสูตรประกาศนียบัตร
วิชาชีพ (ปวช.) หรือตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) 
                                4.1.2  มีความรู้พื้นฐานและประสบการณ์ในรายวิชาหรือกลุ่มวิชาที่ขอประเมิน  
โดยมีหลักฐานทแสดงถึงความรู้ประสบการณ์ 
             4.2  เงื่อนไขการขอรับการประเมินเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เข้าสู่หน่วยกิต 
                ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ
(ปวช.)  หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้น  (ปวส.) 
4.2.1  นักศึกษาลงทะเบียนเพื่อประเมินเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ได้ไม่เกิน 2 ใน  3  ของจำนวนหน่วยกิต
ตามโครงสร้างหลักสูตร 
4.2.2  นักศึกษาที่มีประสบการณ์ในงานอาชีพ  หรือฝึกงานในสถานฝึกอาชีพหรืองานในงานอาชีพนั้นอยู่แล้ว  หรือมีความรู้ในรายวิชาตามหลักสูตรดังกล่าวก่อนเข้าเรียนหรือเข้าเรียนแล้วแต่ขอไปเรียนหรือฝึกปฏิบัติในสถานฝึกอาชีพ  จะขอประเมินเทียบโอนความรู้และประสบการณ์  ในภาคเรียนนั้นอีกไม่ได้ แต่สามารถลงทะเบียนในภาคเรียนนั้นได้หรือสามารถขอรับคำแนะนำจากคณะกรรมการเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการขอรับการ
ประเมินในภาคเรียนเรียนต่อไป

               4.3  วิธีการประเมินเพื่อเทียบโอนความรู้และประสบการณ์  ดำเนินการดังนี้ 
4.3.1  การประเมินเบื้องต้น 
1)  พิจารณาหลักฐานที่ทางราชการและ / หรือสถานประกอบการออกให้  เช่น  ใบสำคัญ  วุฒิบัตร  เกียรติบัตร  หนังสือรับรองของสถานประกอบการ  รางวัล  ฯลฯ 
หลักฐานที่นำมาแสดง  พิจารณาเงื่อนไข  ดังนี้ 
-  หลักฐานต้องมีอายุ  ไม่เกิน  5  ปี  นับถึงวันขอประเมิน  หรือให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาถ้าเป็นหลักฐานที่ภาคเอกชนออกให้ต้องเป็นภาคเอกชนที่ประกอบการ
ถูกต้องตามกฎหมาย        
-  รายวิชา / กลุ่มวิชาที่เสนอขอให้ประเมินจะต้องมีจำนวนชั่วโมงปฏิบัติงาน และ/หรือฝึกอบรมไม่น้อยกว่าชั่วโมงของรายวิชาที่กำหนดไว้  และมีสมรรถนะหรือเนื้อหาสาระที่สอดคล้องกับ
รายวิชากลุ่มรายวิชา / กลุ่ม  ไม่น้อยกว่าร้อยละ  60  
-  พิจารณาข้อมูลการสัมภาษณ์เบื้องต้น

ขั้นตอนการขอเทียบโอนผลการเรียนของนักศึกษา

  • 1. นักศึกษายื่นคำร้องขอเทียบโอนผลการเรียนที่งานวัดผลฯ  ภายในเวลาที่วิทยาลัยฯ  กำหนด
  • 2. คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน  ทำการพิจารณาเทียบโอนผลการเรียนที่ต้องทำการประเมินใหม่ในรายวิชาใด ให้สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการประเมิน  ไม่น้อยกว่า  3  คน  ดำเนินการประเมิน
  • 3. คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียนส่งผลการเทียบโอนงานวัดผล  ดำเนินการเสนอขออนุมัติผลการเรียนเทียบโอนต่อไป
  • 4. งานทะเบียนบันทึกผลการเรียนในระเบียบแสดงผลการเรียน  โดยใช้รหัสวิชาและชื่อวิชาขออนุมัติหลักสูตรที่เทียบโอน
  • นักศึกษาที่ประสงค์จะขอประเมินเทียบโอนความรู้หรือประสบการณ์  ต้องลงทะเบียนเพื่อประเมินเทียบโอนความรู้และประสบการณ์  ตามวัน  เวลา  ที่สถานศึกษากำหนด  โดยชำระเงินค่าลงทะเบียนตามระเบียนหรือประกาศที่เกี่ยวข้องกับการเก็บเงินบำรุงการศึกษา  และต้องได้รับความเห็นจากอาจารย์ที่ปรึกษาหรือผู้ควบคุมการฝึกแล้วแต่กรณี
  • นักศึกษาจะต้องนำหลักฐานที่เชื่อได้ว่าได้ผ่านการฝึกอบรม  หรือฝึกงาน หรือทำงานหรือมีอาชีพในรายวิชาที่ขอประเมินเทียบโอนความรู้และประสบการณ์  ไปแสดงประกอบการลงทะเบียนสอบก่อนชำระเงินเพื่อลงทะเบียนประเมิน
  • ให้สถานศึกษามอบหมายให้คณะกรรมการประเมินความรู้และประสบการณ์  ซึ่งประกอบด้วยหัวหน้าสาขา  ผู้สอนหรือครูฝึกในสาขารวมกันแล้วไม่น้อยกว่า  3  คน  เป็นผู้ทำเครื่องมือประกอบการประเมินให้ครอบคลุมมาตรฐานและเนื้อหาวิชาที่สำคัญในแต่ละบทเรียน  พร้อมกำหนดเกณฑ์การประเมินและเกณฑ์การตัดสินผลการประเมินด้วย
  • คณะกรรมการการประเมินควรดำเนินการให้สอดคล้องกับการเรียนการฝึกของรายวิชาดังกล่าว  หากรายวิชานั้นมีเฉพาะภาคทฤษฎีหรือภาคปฏิบัติให้ประเมินอย่างเดียว  การประเมินผลการเรียนรายวิชาในสถานศึกษาโดยอนุโลม
  • กำหนดเวลาทำการประเมินรายวิชา  ตามข้อ  4  ไม่น้อยกว่าเวลาที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
  • สถานศึกษา  กำหนดวัน  เวลา  สถานที่ประเมิน  และแจ้งให้นักศึกษาทราบล่วงหน้า
  • การขอประเมินเทียบโอนความรู้และประสบการณ์จะกระทำในภาคเรียนเดียวกันหมด  หรือจะขอประเมินในแต่ละภาคเรียนจนหมดหรือครบกำหนดตามจำนวนหน่วยกิตที่กำหนดให้  หรือจะขอประเมินบางรายวิชาเท่านั้น
  • การประเมินเทียบโอนประสบการณ์ดังกล่าวให้เป็นไปตามความสมัครใจของนักศึกษาแต่ละราย